A day to love and remember of you two
เรื่องเล่าจากความทรงจำ ความรู้สึกดีๆ ผ่านมากี่ปี กี่สิบปี ก็ยังจดจำ อย่านับเลยว่านานแค่ไหน รู้ไว้ว่าจากนี้เวลาของเราจะทอดยาวออกไปอีกไม่สิ้นสุด
จิ เจ้าสาวของงานมารับฉันที่ท่ารถ ฉันจำทางไปบ้านเพื่อนไม่ได้เลย ครั้งแรกและครั้งเดียวที่ไปก็คือเมื่อตอนม.2 ผ่านมากี่ปีแล้วนะ 1 2 3 อืม เกือบสิบห้าปีแล้ว จิจัดงานที่บ้านของตัวเอง ซึ่งแต่เดิมเคยเปิดเป็นโรงอิฐ และฉันก็เคยไปทำรายงานกับเพื่อนๆ ครั้งนั้นเพื่อนในกลุ่มของพวกเราตกบ่อดิน เป็นความทรงจำีที่่ขำมากที่สุดในบรรดาเรื่องเล่าวัยเยาว์ “ไอ้ตั๊กตกบ่อดิน” ยังเป็นตำนานที่พวกเรากล่าวขานมาจนทุกวันนี้
เครื่องเสียงและแสงไฟสีสันสดใสทำให้รู้ว่าถึงบ้านงาน (แต่งงาน) แล้ว บ้านจิแปลกตาไปกว่าแต่ก่อนมาก จริงๆ แล้วคงต้องบอกว่า ฉันจำไม่ได้เอาซะเลย บ่อดินหายไปแล้ว แต่มีเรือนหอชั้นเดียวสีเขียวมะนาวสดใสปลูกเด่นสะดุดตา สถานที่ยังตกแต่งไม่เรียบร้อยนัก พรุ่งนี้โต๊ะจีนจึงจะมาลงโต๊ะ ทั้งหมด 100 โต๊ะ ฉันถึงกับร้องโอ้โหเมื่อนึกถึงจำนวนคนภายในงานวันพรุ่งนี้ เพื่อนฉันไม่เหนื่อยวันนี้แล้วจะไปเหนื่อยวันไหน แต่จำไว้ว่า เป็นเจ้าสาวต้องอดทน
ฉันเองอดนอนติดต่อกันมาหลายวัน แล้วคืนก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้นอนเลย แปลกที่อยากนอนแต่ไม่รู้สึกง่วง ยังรู้สึกว่าน่าจะมีอะไรให้ฉันทำได้บ้าง แล้วในที่สุด ฉันก็หน้าบานเมื่องานตกมาถึงมือฉันซะที ทางเดินก่อนถึงซุ้มต้อนรับเข้าโต๊ะจีน เจ้าสาวเจ้าบ่ายครีเอทให้ดูน่ารักน่าสนใจขึ้นด้วย กิ่งไม้พ่นสีขาวและมอบหมายให้ช่วยติดรูปคู่จำนวนหนึ่งร้อยใบกระจายตามกิ่งต่างๆ ฉันนั่งคัดรูปใส่ซองพลาสติก ร้อยด้วยลวดสีทอง แล้วช่วยกันกับพี่สาวของจินำไปผูกไว้ตามกิ่งไม้ ตอนกลางคืนแบบนี้ ไม่ค่อยเห็นสีสันเท่าไหร่ แต่ฉันคิดว่า ในเวลากลางวัน กิ่งไม้เหล่านี้น่าจะช่วยให้งานดูรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยให้ไม่น่าเบื่อ
คืนนั้น สรุปแล้ว ฉันหลับๆ ตื่นๆ รู้สึกตัวตื่นมาตอนตีสาม เจ้าสาวต้องแต่งหน้าแล้ว ฉันเยี่ยมหน้าไปกดชัตเตอร์มาสองสามรูป แล้วก็ขอตัวไปนอนต่อ ตื่นอีกครั้ง เพื่อนฉันแปลงโฉมเป็นเจ้าสาวคนสวยเรียบร้อย ส่วนเจ้าบ่าวก็กลายเป็นเจ้าบ่าวสุดหล่อเช่นกัน
ในทุกเชื้อชาติ ย่อมมีวัฒนธรรม ประเทศไทยของเราก็ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องเจ้าพิธี ขึงไม่แปลกที่งานในวันนี้ พิธีแบบไทยๆ ถูกตระเตรียมไว้รอเรียบร้อย เริ่มตั้งแต่การไหว้พระ สวดมนต์ ตักบาตร แห่ขันหมาก กั้นประตูเงินประตูทอง เปิดขันหมาก รับสินสอดทองหมั้น เจิมหน้าผาก คล้องพวงมาลัย รดน้ำ เซ่นผี และรับไหว้ ทุกอย่างดำเนินอยู่บนบ้าน บ่าวสาวต้องอดทนกับการนั่งพับเพียบเป็นชั่วโมง ยกมือไหว้แขกเหรื่อนับร้อย ยิ้มรับคำอวยพร ฉันว่าเพื่อนคงเหนื่อยแต่หน้าตาบ่งบอกว่ายินดีกับพิธีที่เกิดขึ้น
ในทุกช่วงเวลามีความหมาย เพราะขณะที่บนบ้าน พิธีต่างๆ ได้ดำเนินไปนั้น ด้านล่าง โต๊ะจีนทยอยตั้งโต๊ะ จัดแต่งสถานที่ แขกเหรื่อร่วมรับประทานอาหารที่เตรียมไว้ พูดคุยทักทาย ถ่ายรูป พระอาทิตย์ก็ยังทำหน้าที่ ฉันเองก็ไม่ได้หยุดนิิ่ง เดินดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย งานนี้ก็เหมือนทุกๆ งานที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เกิดงานใหญ่กระทั่งทำให้งานนั้นๆ สมบูรณ์ขึ้นมา
ในทุกพื้นที่ของบ้าน มี “งาน” อยู่ทั่วทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูโต๊ะลูกไม้สีขาว ตะกร้อสาน ริบบิ้นบนกิ่งไม้ โมบายแขวน แผ่นซีดี เรือบรรทุกอาหาร ร่มสีขาว กรอบรูป ฯลฯ ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากความตั้งใจที่ต้องการจัดให้งานออกมาดีที่สุด ประทับใจที่สุด ทั้งต่อเจ้าของงานและต่อผู้ร่วมงาน
ในขณะที่ฉันเรียกจิว่าจิ จริงๆ แล้วนั้นจิมีชื่อเล่นว่า ชมพู่ และใครๆ ก็เรียกจิว่าพู่กันทั้งนั้น บังเอิญหรือตั้งใจไม่รู้ที่บ้านของจิปลูกต้นชมพู่ไว้หน้าบ้าน ฉันเหลือบไปเห็นดอกชมพู่ ยิ้มอยู่ในใจว่ายังไงซะก็ต้องเก็บภาพดอกชมพู่มาฝาก ฝากทั้งเจ้าของชื่อ และฝากเจ้าบ่าว คนที่ต่อไปนี้ต้องมาดูแลชมพู่ดอกนี้แทนพ่อกับแม่ที่เฝ้าดูแลทะนุถนอมมาตั้งแต่เล็กๆ
ในบรรดาพิธีการทั้งหมดของวัน ฉันชอบขบวนแห่ขันหมากมากที่สุด เสียงดนตรีสดจากวงดนตรีสนุกสนาน ครื่นเครง บรรดานักรำทั้งหลายออกท่าทางกันอย่างเต็มที่ กว่าเจ้าบ่าวจะฝ่าด่านมาถึงเจ้าสาวได้ ก็ทำเอาเหงื่อตกไปไม่น้อย เหงื่อตกกันทั้งขบวนก็ว่าได้ แต่งานนี้ก็ันับว่าคุ้ม เพราะได้เจ้าสาวคนสวยไปครอง
ในทุกงาน ไม่ว่าจะงานอะไรก็ตาม ต้องมีแม่งาน แม่งานจะคอยคุมคิว จะคอยประสานงาน จะคอยบอกว่าต้องนั่งตรงไหน ยืนตรงไหน จะต้องทำอะไรต่อไป เรียกได้ว่าถ้าต้องจ้างบรรดาเว็ดดิ้งแพลนเนอร์ งานนี้คงแพงน่าดู แต่เท่าที่ฉันเห็นงานแบบไทยๆ ไทยมากๆ แบบนี้ แม่งานเต็มใจทำงานกันทุกคนโดยไม่ต้องมีอามิสสินจ้าง แม้จะไม่ใช่ญาติแต่เป็นเพียงคุณป้าข้างบ้านก็ตาม
ในความทรงจำของฉันเองก็มีเรื่องราวของงานแต่งงานอยู่ไม่น้อย ฉันอดไม่ได้ที่จะนึกเปรียบเทียบงานนี้ของเพื่อนกับงานก่อนๆ ที่เคยไปมา แต่ละงานก็แตกต่างกันไป บางงาน จัดงานในสวน งานนั้นก็ต้องพึ่งพาสภาพอากาศ และต้องมีแผนสำรอง ถ้าจัดในโรงแรม พื้นที่ก็จะคับแคบและจำกัดจำนวนแขกเหรื่อที่จะมาร่วมแสดงความยินดี ในขณะที่งานที่จัดที่บ้านแบบไทยๆ ส่วนใหญ่ มักจะเป็นไปตามความต้องการของผู้ใหญ่ เน้นไปที่พิธีการและเป็นการจัดงานเพื่อตามใจพ่อกับแม่ ซึ่งก็ในเมื่อพ่อกับแม่ตามใจให้เราเลือกคู่ด้วยตัวเอง แล้วทำไมเราจะตามใจพ่อกับแม่แค่ซักวันบ้างไม่ได้
ฉันอยู่ร่วมงานถึงแค่เที่ยง นึกเสียดายอยู่บ้างที่ไม่ได้อยู่จนกระทั่งงานเลิก แต่ก็ดีใจที่ได้ไปอยู่ในพิธีช่วงเช้าซึ่งสำคัญกว่าพิธีกินเยอะเลย งานแต่งงานของจิก็ผ่านมาหลายวันแล้ว แต่เมื่อนึกถึงงานและบ้านของจิในวันนั้น นอกจากจะเพิ่มความทรงจำใหม่ๆ สวยๆ เข้าไปในสมองแล้ว ยังช่วยทบทวนความทรงจำสวยๆ ในอดีตให้ํฉันอีกด้วย กล่องเก็บจดหมายที่จิเอาออกมาให้ฉันได้อ่านก่อนนอน ทำให้ฉันได้กลับไปเจอตัวเองสมัยมัธยม มหาวิทยาลัย ไม่ใช่แค่จิที่ขอบคุณฉันสำหรับจดหมายและการเป็นตากล้องจำเป็น ฉันเองก็ต้องขอบคุณจิเช่นกัน 🙂